ถึงคุณที่กำลังเป็นแผลเบาหวานแล้วหายยาก รักษามาหลายวิธีแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น!

เคยสงสัยไหม? ทำไมรักษาแผลเบาหวานด้วยการล้างแผลทุกวัน ทานยาเบาหวาน ทานยาลดไขมัน ยาฆ่าเชื้อ หรือ ทานยาแก้อักเสบ และทานยาแก้ปวด แต่แผลก็ยังไม่ดีขึ้น แถมเป็นหนักกว่าเดิมอีก และหายยากมาก วันนี้ผมจะมาอธิบายอย่างละเอียด พร้อมให้วิธีรักษาที่ต้นเหตุว่าต้องทำยังไง ถึงจะทำให้แผลแห้ง สมาน และหายเร็ว จนคุณไม่ต้องทนเจ็บ และเสี่ยงโดนตัดเท้า อีกต่อไป…

อ่านเว็บนี้ให้จบแล้วคุณจะรู้ว่าต้องทำอย่างไร?

ก่อนอื่นขออธิบาย สาเหตุหลักที่ทำให้แผลเบาหวาน หายยาก ก่อนนะครับ ว่าเกิดจากอะไร??

สาเหตุที่เป็นแผลเบาหวาน แล้วหายยาก เกิดจาก 2 สาเหตุหลัก ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน

1. ปลายประสาทอักเสบ
ปลายประสาทอักเสบ เกิดจากผู้ที่เป็นโรคเบาหวานมานานหลายปี เพราะผู้ที่เป็นโรคเบาหวานมานาน จะทำให้หลอดเลือดเกิดการถูกทำลายและเสียหาย ทำให้สูญเสียการรับความรู้สึกร้อน-เย็น จึงทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่ค่อยรู้สึกเจ็บหรือรู้ตัวเวลาที่เป็นแผลในช่วงแรก

2. มีไขมันในเลือด หรือ คอเลสเตอรอลสูง
ซึ่งไขมัน หรือคอเลสเตอรอลในเลือด จะแบ่งเป็น 2 ชนิดด้วยกันคือ ไขมันชนิด HDL กับไขมันชนิด LDL

2.1 คอเลสเตอรอลชนิดดี HLD (High Density Lipoprotein) หรือที่มักเรียกว่าไขมันดี ทำหน้าที่เป็นตัวลำเลียงไขมันในเลือด ไปยังส่วนต่างๆของร่างกายโดยผ่านหลอดเลือด และช่วยลำเลียงไขมันชนิดไม่ดี LDL ไปลงสู่ตับเพื่อทำลายทิ้ง

เพราะฉะนั้นไขมันชนิดดี HDL จึงจำเป็นต่อร่างกายมากๆ เพราะหากในหลอดเลือดไม่มีไขมันชนิดดี HDL จะทำให้ไขมันเลว หรือไขมันชนิดไม่ดี LDL เกาะพอกอยู่ตามผนังหลอดเลือดได้ง่ายขึ้น

2.2 คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี LDL (Low Density Lipoprotein) หรือที่มักเรียกว่าไขมันเลว ทำหน้าที่เช่นเดียวกับไขมันดี HDL ที่เป็นตัวลำเลียงไขมันไปยังส่วนต่างๆในร่างกายโดยผ่านหลอดเลือด เพียงแต่ไม่ได้ทำหน้าที่กำจัดไขมันไม่ดีออกจากร่างกายเหมือน HDL

ซึ่งหากมีไขมัน LDL ในปริมาณที่มากเกินไป ไขมัน LDL จะเข้าไปสะสมที่ผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบตันและแข็งที่ทำให้คุณเป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือสาเหตุหลักที่ทำให้แผลเบาหวาน คุณหายช้า เพราะเลือดไปเลี้ยงในส่วนเนื้อเยื้อบริเวณแผลได้ไม่ดีพอ

5 วิธีรักษาแผลเบาหวาน ที่คุณจะเจอเวลาไปพบแพทย์

1. การทำแผล
หากแผลมีน้ำหนอง หมอจะกรีดเปิดแผลให้กว้างเพื่อระบายน้ำหนองออก ตัดเนื้อเน่าตายออก ล้างแผลด้วยน้ำเกลือ จากนั้นก็ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว หรือน้ำเกลือผสมน้ำยาเบตาดีน โดยปกติแพทย์จะนัดให้ไปทำแผลทุกวัน

 

2. การใช้ยาปฎิชีวนะ
กรณีนี้ แพทย์จะพิจารณาตามลักษณะและความรุนแรงของแผล ว่าควรใช้ยาชนิดใด โดยจะมีทั้งยาแบบรับประทาน และยาแบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือหลอดเลือด

 

3.การหยุดพักบริเวณที่เป็นแผล
แพทย์จะบอกให้เราพยายามเดินให้น้อยๆ หรือสวมรองเท้าที่ทำขึ้นเป็นพิเศษเวลาเดิน เพื่อไม่ให้น้ำหนักไปลงบริเวณที่เป็นแผลเบาหวาน

 

4.การผ่าตัดหลอดเลือด
สาเหตุมาจากการขาดเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื้อบริเวณที่เป็นแผล เนื่องจากมีเส้นเลือดตีบตันแข็ง การผ่าตัดหลอดเลือดจะช่วยให้มีเลือดไปหล่อเลี้ยงบริเวณแผลได้ดีขึ้น ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ทั้งนี้แพทย์จะเป็นผู้ประเมินความรุนแรงของแผล และความพร้อมของผู้ป่วยว่าเหมาะสมที่จะเข้ารับการผ่าตัดหรือไม่

 

5. การตัดเท้าทิ้ง
จะทำก็ต่อเมื่อไม่สามารถรักษาแผลด้วยวิธีที่บอกมาทั้ง 4 ข้อแล้วให้ได้ผล ระดับที่ผ่าตัดจะอยู่ใต้เข่าหรือเหนือเข่าขึ้นอยู่กับแผล  เพื่อให้หลังผ่าตัดสามารถประกอบขาเทียมได้ ทำให้ผู้ป่วยเดินและเคลื่อนไหวได้

แต่ความโชคร้ายของคนส่วนใหญ่ คือเมื่อตัดเท้าแล้วถ้าไม่ระวังอีก ก็สามารถกลับมาเป็นแผลเบาหวานได้ที่เท้าอีกข้างหนึ่ง หากเท้าอีกข้างไปโดนของคม หรือเกิดเป็นแผล

เหตุผลที่ทำให้คุณเป็นแผลเบาหวานหายแล้ว กลับมาเป็นได้อีก ก็เพราะทั้ง 5 ข้อ นี้เป็นเพียงการรักษาที่ปลายเหตุ ไม่ได้เป็นการรักษาแผลเบาหวานที่ต้นเหตุ

 

วิธีรักษาแผลเบาหวาน ที่ต้นเหตุคือ คุณต้องลดระดับน้ำตาลในเลือด พร้อมทั้งกำจัดสลายไขมันไม่ดีอย่าง LDL ที่เกาะติดตามผนังหลอดเลือด เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื้อบริเวณที่เป็นแผลได้ดีขึ้น

วิธีการลดระดับน้ำตาลในเลือด และกำจัดสลายไขมันไม่ดี LDL
คือคุณต้องมีวินัยในการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และต้องมีวินัยในการกินอย่างมากๆ ที่สำคัญต้องเลือกกินอาหารที่ช่วยเพิ่มไขมันดี HDL ทุกมื้อ หรือทุกวันให้ได้ เพื่อกำจัดไขมันไม่ดี LDL ทิ้งลงสู่ตับ และไม่ใช่มีวินัยแค่ 1-2 สัปดาห์ แต่คุณต้องมีวินัยแบบนี้เป็นเดือนๆเลยนะครับ

ทานยาหมอทุกวัน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และกำจัดไขมันเลว LDL ได้ไหม??

1. กรณีทานยาโรคเบาหวาน
ตอบ : การทานยาหมอเป็นเพียงตัวช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงมากขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ได้ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้ 

2. กรณีทานยาลดไขมัน
ตอบ : การทานยาลดไขมัน สามารถกำจัดไขมันเลว LDL ได้ แต่มีข้อเสียก็คือ ลดไขมันดี HDL ไปด้วยเช่นกันเหมือนกัน ซึ่งตัวยามีหน้าที่กำจัดทำลายไขมัน  แต่ไม่สามารถแยกได้ว่าไขมันดี หรือไขมันเลว

เพราะเหตุนี้เวลาคุณทานยามากเท่าไหร่ ก็ยังทำให้แผลเบาหวานหายช้าได้อยู่ดี เพราะการทานยาเป็นเพียงการรักษาที่ปลายเหตุเท่านั้น! และหากทานมากๆก็จะมีผลข้างเคียงต่อตับ ไต

มาถึงตรงนี้เห็นภาพชัดเจนแล้วใช่ไหมครับ 
ว่าวิธีที่เราดูแลรักษาแผลเบาหวานมาตลอด ทำไมถึงทำให้แผลเบาหวานหายช้า หรือไม่หายไปเลย

จริงๆบางทีคุณอาจจะกำลังรักษาเพียงปลายเหตุอยู่เท่านั้นเองครับ

ถ้าวันนี้คุณเคยรักษาแผลเบาหวานมาทั้ง 5 วิธี แล้วแผลหายช้า หรือแผลยังไม่หายสักที
และหากไม่สามารถมีวินัยในการออกกำลังกาย หรือเลือกกินอาหารเมนูที่มีไขมัน HDL ได้ทุกมื้อหรือทุกวันเป็นเดือนๆได้

ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ Balance P ที่มีสารสกัดจากสมุนไพรสกัดเย็นกว่า 9 ชนิด ที่มีงานวิจัยรองรับจากหลายสถานบัน ว่าสามารถช่วยรักษาแผลเบาหวานที่ต้นเหตุ เพราะสารสกัดจาก Balance P จะช่วยเข้าไปลดระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มปริมาณไขมันชนิดดี HDL เพื่อไปกำจัดไขมันเลว LDL ทิ้งลงสู่ตับเพื่อทำลาย ทำให้เลือดไหลเวียนผ่านหลอดเลือดเพื่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆในร่างกายได้ดีขึ้น จึงช่วยให้ค่าความดันและค่าเบาหวาน สามารถกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติได้อีกครั้ง ที่สำคัญทานมากแค่ไหนก็ไม่มีผลข้างเคียงอีกด้วย

หากคุณสนใจดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ Balance P คลิกที่ปุ่มด้านล่างได้เลยครับ